ดูว่าดีไหม บำรุงเลือด นูทริ โฟลิค กิฟฟารีน

รายละเอียดของสินค้า บำรุงเลือด นูทริ โฟลิค กิฟฟารีน

Folicacid สารอาหารที่จำเป็นแห่งชีวิต
กรดโฟลิค หรือ วิตมินบี 9 มีส่วนช่วยในกระบวนการการเผาผลาญโปรตีน มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง และมีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ เนื่องจากช่วยในการสร้างกรดนิวคลีอิกใน DNA และ RNA อีกทั้งช่วยป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์ ส่วนในคนทั่วไปจะช่วยให้เจริญอาหาร แก้อ่อนเพลีย
แหล่งที่พบกรดโฟลิคตามธรรมชาติได้แก่ ไข่แดง, ตับ, ผักใบเขียว, แครอท, แคนตาลูป, ฟักทอง, เอพริคอต, อะโวคาโด, อาร์ติโชก
เรื่องน่ารู้ของ กรดโฟลิค
กรดโฟลิค (Folic Acid) มีความสำคัญในการสร้งเม็ดเลือดแดง ช่วยในการสร้างส่วนประกอบสำคัญของพันธุกรรม (DNA) และมีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญโปรตีน เมื่อได้รับกรดโฟลิค ร่างกายจะเปลี่ยนโครงสร้างกรดโฟลิคให้กลายเป็นโฟเลต ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์และซ่อมแซมพันธุกรรม หรือ ดี-เอ็น-เอ (DNA) ซึ่งมีผลต่อเนื่องไปถึงการแบ่งเซลล์และการเจริญเติมโตของร่างกาย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในเด็กทารก หญิงตั้งครรภ์ ส่วนในเด็กทั่วไป วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ก็ยังมีความจำเป็นต้องได้รับโฟเลตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง และใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง รวมทั้งป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจางอีกด้วย
กรดโฟลิคกับหญิงตั้งครรภ์
ตามปกติแล้วกรดโฟลิคจะได้รับจากอาหารจำพวกไข่แดง ตับ ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว ถั่ว แต่ปริมาณกรดโฟลิคที่ได้จากอาหารนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หญิงที่ตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้องได้รับเสริมเข้าไปเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบประสาท และป้องกันการเกิดความผิดปกติของกระดูกสันหลัง (เช่น Neural tube deface,Spin bifida) ของทารกในครรภ์ จากการวิจัยพบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานกรดโฟลิคตามที่แพทย์แนะนำ สามารถลดโอกาสการเกิดความผิดปกติของกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์ลดถึง 50% และมีงานวิจัยระบุว่าการรับประทานโฟลิควันละ 400 ไมโครกรัม ในช่วงระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
กรดโฟลิคกับภาวะโลหิตจาง
ภาวะโลหิตจาง คือ ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือฮีโมโกลบิน (ส่วนประกอบเม็ดเลือดแดง) ซึ่งทำหน้าที่ในการพาออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ในร่างกาย ทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ เมื่อสิ่งเหล่านี้ทำหน้าที่ผิดปกติ จะส่งผลให้ผู้ป่วยในภาวะเหนื่อยง่าย ซึ่งการขาดกรดโฟลิคก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเลือดจางได้
ทั้งนี้ยังไม่สามารถพบภาวะเลือดจางจากการขาดโฟลิคได้ ในกรณีต่อไปนี้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้ที่อาจมีภาวะเลือดจางแต่ตรวจหาไม่พบนั่นเอง
ในผู้ป่วยที่มีภาวะท้องเสียงเรื้อรัง ทำให้เกิดความผิดปกติต่อการดูดซึมสารอาหาร
ผู้ที่ดื่มสุราประจำ โดยแอลกอฮอล์จะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมและรบกวนกระบวนการเผาผลาญของกรดโฟลิค
ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากร่างกายต้องการโฟลิคในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อใช้ในการสร้างอวัยวะของทารกในครรภ์
สารอาหารที่แนะนำ ให้รับประทานร่วมกับกรดโฟลิค
วิตามินบี1 หรือ ไทอะมีน ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ลดความเหนื่อยล้าจากากรทำงานช่วยบำรุงระบบประสาทและช่วยให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ
วิตามินบี6 หรือ โพริดอกซิน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและการเจิรญเติบโตของเซลล์ใหม่ ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเสริมสร้างกรดนิวคลีอิคใน RNA และ DNA จึงมีประโยชน์ต่อการแบ่งตัวของเซลล์
วิตามินบี12 หรือ โคบาลินบิน ทำงานร่วมกับกรดโฟลิค จะช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีบทบาทสำคัญในการสร้างคลอลาเจน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยต่อต้านการก่อเมร็ง อีกทั้งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติอีกด้วย
ประโยชน์ดี ๆ จากดรดโฟลิค
๐ มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโลหิตจาง
๐ ป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์
๐ จำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์
๐ สังเคราะห์และซ่อมแซมสารพันธุกรรม DNA
๐ บำรุงสุขภาพ
๐ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
เหมาะกับใครบ้าง
๐ ผู้หญิงที่เตรียมตัวตั้งครรภ์
๐ ผู้ที่มีกาอารอ่อนเพลียเป็นประจำ
๐ ผู้ที่มีภาวะโลหิตจากทั่วไป หรือทารัสซีเมีย ที่ตอ้งการเสริมโฟลิคแต่มีภาวะธาตุเหล็กเกิน
วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
จำนวน 60 แคปซูล
ราคา 180 บาท